อัพเดทรถที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานและประหยัดน้ำมัน ยานยนต์ที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่ในเมืองใหญ่

คุณกำลังมองหารถที่จะง่ายต่อการใช้งานในเมืองใหญ่ ราคาที่คุ้มค่า และการใช้น้ำมันที่ประหยัดใช่ไหม ในปี 2025 นี้มีหลายรุ่นที่ออกแบบเพื่อการใช้งานในเมือง เช่นรถที่มีเครื่องยนต์ที่วางแนวดิ่งและประหยัดน้ำมัน และรุ่น EV ที่เป็นแนวคิดของคนรักสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้เราได้รวม10 รุ่นรถยนต์ที่คุณควรซื้อสำหรับผู้ที่อาศัยในเมืองใหญ่ในปี 2025 มาให้คุณแล้ว!

10 ยานยนต์ราคาดีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่อาศัยในเมืองใหญ่ ปี 2025

1. Suzuki Celerio

• ราคาเริ่มต้น: 379,900 บาท
• ประเภท: รถแฮทช์แบ็กขนาดเล็ก (A-Segment) 5 ประตู  5 ที่นั่ง
• เครื่องยนต์: 1.0 ลิตร 68 แรงม้า
• อัตราสิ้นเปลือง: 20.8 กม./ลิตร
• จุดเด่น: มีขนาดเล็กและสะดวกสบาย สามารถเข้าออกจากซอยที่แคบ ๆ ได้ง่ายๆ ที่จอดนิ่งที่แคบ ๆ สามารถทำได้ ประหยัดน้ำมันมากกว่า 20 กม./ลิตร ภายในมีพื้นที่สำหรับ 4 คน เหมาะสมสำหรับคนโสดหรือคู่รักที่อาศัยอยู่ในเมือง

2. Wuling Binguo EV

• ราคาเริ่มต้น: 419,000 บาท
• ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็ก 5 ประตู 5 ที่นั่ง
• มอเตอร์ไฟฟ้า: 68 แรงม้า
• ระยะทางวิ่ง: 333 กม. ต่อการชาร์จเต็ม
• จุดเด่น: ดีไซน์เรโทรน่ารัก ขนาดเล็ก ขับง่าย มาพร้อมระยะทางวิ่งสูงสุด 333 กม./ชาร์จ พื้นที่ภายในพอเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและเดินทางระยะใกล้

3. Mitsubishi Mirage

• ราคาเริ่มต้น: 509,000 บาท
• ประเภท: แฮทช์แบ็ก 5 ประตู 5 ที่นั่ง
• เครื่องยนต์: 1.2 ลิตร 78 แรงม้า
• อัตราสิ้นเปลือง: 22.0 กม./ลิตร
• จุดเด่น: น้ำหนักเบา คล่องตัวสูง พวงมาลัยหมุนง่าย เหมาะกับมือใหม่และการใช้งานในเขตเมืองที่มีรถติด ตัวถังเล็ก แต่เบาะพับหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระได้

4. Mitsubishi Attrage

• ราคาเริ่มต้น: 529,000 บาท
• ประเภท: ซีดานขนาดเล็ก (B-Segment) 4 ประตู / 5 ที่นั่ง
• เครื่องยนต์: 1.2 ลิตร 78 แรงม้า
• อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร
• จุดเด่น: ห้องโดยสารกว้างกว่ารุ่น Mirage ขับนิ่ม ประหยัด ค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับคนมีครอบครัวขนาดเล็กหรือคนที่ต้องการรถซีดานราคาประหยัด

5. Toyota Yaris Ativ

• ราคาเริ่มต้น: 549,000 บาท
• ประเภท: ซีดาน B-Segment 4 ประตู / 5 ที่นั่ง
• เครื่องยนต์: 1.2 ลิตร 94 แรงม้า
• อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร
• จุดเด่น: ดีไซน์ทันสมัย ห้องโดยสารสไตล์พรีเมียม พื้นที่วางขากว้างนั่งสบาย เหมาะสำหรับวัยทำงานที่เน้นภาพลักษณ์ และเดินทางในเมืองบ่อยๆ

6. Nissan Almera

• ราคาเริ่มต้น: 549,000 บาท
• ประเภท: ซีดานขนาดเล็ก (B-Segment) 4 ประตู / 5 ที่นั่ง
• เครื่องยนต์: 1.0 ลิตร เทอร์โบ 100 แรงม้า
• อัตราสิ้นเปลือง: 23.1 กม./ลิตร
• จุดเด่น: มาพร้อมเทอร์โบ เครื่องเล็กแต่แรง เบาะหลังกว้างขวาง เหมาะกับทั้งคนขับเองหรือใช้เป็นรถแท็กซี่/Grab ในเมือง

7. Honda City

• ราคาเริ่มต้น: 599,000 บาท
• ประเภท: ซีดาน (B-Segment) 4 ประตู / 5 ที่นั่ง
• เครื่องยนต์: 1.0 ลิตร เทอร์โบ 122 แรงม้า
• อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร
• จุดเด่น: ขนาดใหญ่กว่ารุ่นอื่นในกลุ่มเดียวกัน สมรรถนะดี นั่งสบาย 5 คน เหมาะกับคนที่อยากได้รถขับสนุก ตอบโจทย์ทั้งในเมืองและวิ่งออกต่างจังหวัดบ้างเป็นบางครั้ง

8. MG3 Hybrid+

• ราคาเริ่มต้น: 559,900 บาท
• ประเภท: แฮตช์แบคไฮบริด 5 ประตู / 5 ที่นั่ง
• ระบบขับเคลื่อน: ไฮบริด 194 แรงม้า
• จุดเด่น: ใช้เทคโนโลยีไฮบริดใหม่ นำความลื่นไหลในการขับขี่ในเมือง ตอบสนองอย่างรวดเร็ว สำคัญที่ประหยัดทั้งปิโตรเนียมและค่าใช้จ่ายในดูแลรักษา

9. Mazda 2 Hatchback

• ราคาเริ่มต้น: 599,000 บาท
• ประเภท: แฮตช์แบคขนาดเล็ก (B-Segment) 5 ประตู / 5 ที่นั่ง
• เครื่องยนต์: 1.3 ลิตร 93 แรงม้า
• อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร
• จุดเด่น: สนุกในการขับขี่มีความแน่นทางตัวรถ รูปลักษณ์สปอร์ต พวงมาลัยที่น่าประทับใจ สำหรับคนที่ขับขี่ทุกวันในเมืองและต้องการดีไซน์พรีเมียมในงบประมาณไม่เกิน 6 แสน

10. BYD Dolphin (EV)

• ราคาเริ่มต้น: 699,999 บาท
• ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า Hatchback 5 ประตู / 5 ที่นั่ง
• ระยะทางวิ่ง: สูงสุด 410 กม.ต่อการชาร์จเต็ม
• จุดเด่น: วิ่งไกลสูงสุดถึง 410 กม. ต่อชาร์จ มีฟีเจอร์ที่ทันสมัยและการออกแบบที่โดดเด่นในคลาส EV สำหรับผู้ที่เชื่อมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและต้องการทันสมัยอย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าคุณกำลังมองหา รถที่มีราคาประหยัด มีประสิทธิภาพดี และเหมาะสมสำหรับการขับขี่ในเมืองใหญ่เช่น กรุงเทพ ซีอางใหม่ หรือขอนแก่น ในปี 2025 นี้มีตัวเลือกที่หลากหลายและน่าใช้งานมาก ไม่ว่าจะเป็นรถขนาดเล็ก รถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน หรือรถ EV ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ติดตามรีวิวรถโมเดลอื่น ๆ และคำแนะนำในการเลือกรถเพิ่มเติมได้ที่ www.pcauto.com/th