วิธีการที่จะทำให้รถขับได้ 12 ปีโดยไม่เสียหาย? นี่คือความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษารถที่คุณต้องรู้

ธนวัฒน์Feb 08, 2025, 12:05 PM

【PCauto】สำหรับเจ้าของรถทุกท่านในประเทศไทย การมีรถยนต์ที่ทนทานถือเป็นเรื่องที่ทั้งประหยัดใจและประหยัดเงิน วันนี้ขอมาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์ที่สำคัญ เพื่อให้รถของคุณดูใหม่อยู่เสมอ

รายการบำรุงรักษาประจำของรถยนต์ ขั้นพื้นฐานของความยาวนานของรถที่คุณรัก

รถยนต์เหมือนกับเพื่อนเครื่องจักรที่มีความละเอียดอ่อน หากต้องการให้มันคงความสดใสตลอดเวลา การบำรุงรักษาที่สม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เริ่มจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการบำรุงรักษา น้ำมันเครื่องเป็น “เลือด” ของเครื่องยนต์ ซึ่งทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ ลดการเสียดทานและป้องกันการสึกหรอเกินไป เมื่อใช้งานไปนานๆ คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องจะลดลงและมีสิ่งเจือปนเพิ่มขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5000-10000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและสภาพการใช้งาน การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับประเภทของเครื่องยนต์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถดูจากคู่มือการใช้งานของรถยนต์

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ระบบเบรกเป็นการรับประกันความปลอดภัยในการขับขี่ โดยน้ำมันเบรกมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดแรงเบรก หลังจากใช้งานไปนานๆ น้ำมันเบรกจะดูดซับความชื้นจากอากาศ ทำให้จุดเดือดลดลง เมื่อเบรกบ่อยๆ อาจเกิดฟองอากาศในน้ำมันเบรกซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเบรก โดยปกติแล้วควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกทุก 2-3 ปี หรือ 40,000-60,000 กิโลเมตร เพื่อให้มั่นใจว่าเบรกทุกครั้งจะมีความแม่นยำและแรงเบรกที่เพียงพอในช่วงเวลาสำคัญ

ไส้กรองอากาศ แม้จะดูเล็กน้อย แต่มีบทบาทสำคัญมาก มันทำหน้าที่กรองอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์ ป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์และทำให้เกิดการสึกหรอ สภาพถนนที่มีฝุ่นเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่มีอนุภาคในอากาศมากขึ้น ทำให้ไส้กรองอากาศสกปรกได้ง่าย ดังนั้นควรเปิดฝากระโปรงรถและตรวจสอบไส้กรองอากาศเป็นระยะ ถ้าพบว่ามีฝุ่นสะสมเยอะก็ควรเปลี่ยนใหม่ โดยปกติแล้วควรเปลี่ยนทุกๆ 10,000-20,000 กิโลเมตร เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถหายใจได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ

นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว น้ำหม้อน้ำก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นประจำ น้ำหม้อน้ำจะไหลเวียนในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เพื่อนำความร้อนที่เกิดจากการทำงานของเครื่องยนต์ออกไป ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม และสามารถป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปในช่วงฤดูร้อน ควรตรวจสอบระดับน้ำหม้อน้ำและจุดเยือกแข็งเป็นระยะ หากระดับน้ำต่ำเกินไปก็ควรเติมให้พอเพียง และทุกๆ 2-3 ปี ควรพิจารณาเปลี่ยนน้ำหม้อน้ำใหม่ เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเสถียร

ละมุนใจ - ปัญหาทั่วไปเครื่องยนต์ซ่อมบำรุงและการป้องกัน

เครื่องยนต์ถือเป็น “หัวใจ” ของรถยนต์ การดูแลรักษาสุขภาพของเครื่องยนต์มีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของรถ การเข้าใจถึงอาการเสียที่พบบ่อยในระบบเครื่องยนต์และวิธีการแก้ไข จะช่วยให้คุณไม่ตื่นตระหนกในช่วงเวลาสำคัญ

อาการระบบเครื่องยนต์สั่นเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งอาจเกิดจากหัวเทียนจุดระเบิดได้ไม่ดี หัวเทียนเปรียบเสมือน "ไฟแช็ก" ของเครื่องยนต์ ทำหน้าที่จุดระเบิดให้กับส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนลูกสูบ หากหัวเทียนสึกหรอมากหรือมีคราบเขม่าเกาะเยอะ อาจทำให้การจุดระเบิดไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เครื่องยนต์สั่นสะเทือน หากพบปัญหานี้ควรรีบเปลี่ยนหัวเทียน โดยทั่วไปหัวเทียนธรรมดาควรเปลี่ยนทุก 20,000-30,000 กิโลเมตร ส่วนหัวเทียนแพลทินัมหรืออิริเดียมมีอายุการใช้งานนานกว่า แต่ก็ควรตรวจสอบและเปลี่ยนตามสภาพการใช้งาน

อาการระบบเครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่องเร็วกว่าปกติเป็นปัญหาที่ทำให้เจ้าของรถหลายคนปวดหัว สาเหตุอาจมาจากแหวนลูกสูบสึกหรอหรือซีลวาล์วเสื่อมสภาพ หากแหวนลูกสูบปิดไม่สนิท น้ำมันเครื่องอาจเล็ดลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้และถูกเผาไหม้ร่วมกับเชื้อเพลิง ส่งผลให้น้ำมันเครื่องลดลงเร็วผิดปกติและอาจทำให้เกิดควันไอเสียสีฟ้า หากเกิดปัญหานี้ การซ่อมแซมค่อนข้างซับซ้อน เพราะต้องรื้อชิ้นส่วนเครื่องยนต์เพื่อเปลี่ยนแหวนลูกสูบหรือซีลวาล์วที่เสียหาย วิธีป้องกันที่ดีคือหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ ใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพดี และหลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องยนต์ที่รอบสูงต่อเนื่องหรือบรรทุกหนักเกินไป เพื่อช่วยรักษาสภาพชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน


อาการเครื่องยนต์ร้อนเกินไปเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากปัญหาน้ำหม้อน้ำที่กล่าวถึงไปแล้ว ปั๊มน้ำเสียหรือหม้อน้ำอุดตันก็สามารถทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปได้ หากปั๊มน้ำหยุดทำงาน น้ำหม้อน้ำก็ไม่สามารถหมุนเวียนเพื่อระบายความร้อนได้ หากหม้อน้ำอุดตันจากสิ่งสกปรกหรือคราบตะกรัน ความร้อนก็จะไม่สามารถระบายออกได้ เครื่องยนต์จะร้อนจนเกินไป หากพบว่าเข็มวัดอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ควรหยุดรถและจอดข้างทางทันที ห้ามขับต่อไปจนกว่าจะเย็นลง และควรเรียกช่วยเหลือเพื่อนำรถไปที่อู่เพื่อทำการตรวจสอบและซ่อมแซม การป้องกันที่ดีคือการทำความสะอาดหม้อน้ำเป็นประจำ เพื่อให้แผงระบายความร้อนสะอาดและมีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดี รวมทั้งต้องตรวจสอบระดับน้ำหม้อน้ำและเข็มวัดอุณหภูมิเป็นประจำและตรวจเช็กก่อนการขับขี่ทุกครั้ง

ตรวจสอบประจำวัน - ทำให้บริเวณที่ซ่อนตัวไม่อยู่ที่ไหน

นอกจากการบำรุงรักษาแบบมืออาชีพตามระยะเวลาแล้ว การตรวจเช็ครถยนต์เป็นประจำในชีวิตประจำวันก็ช่วยให้คุณสามารถพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที และป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น

แรงดันลมยางเป็นสิ่งที่ควรตรวจสอบทุกครั้งก่อนออกเดินทาง ในประเทศที่อุณหภูมิสูงลมยางสามารถได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง หากแรงดันลมยางสูงเกินไป พื้นที่สัมผัสระหว่างยางกับถนนจะลดลง ทำให้การยึดเกาะถนนลดลง ระยะเบรกยาวขึ้น และมีความเสี่ยงในการระเบิดขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง หากแรงดันลมยางต่ำเกินไป ยางจะสึกหรอเร็วขึ้น น้ำมันที่ใช้ก็จะเพิ่มขึ้น และการควบคุมรถจะย่ำแย่ลง ควรใช้เครื่องวัดแรงดันลมยางเพื่อตรวจสอบและปรับแรงดันตามที่ระบุในคู่มือหรือกรอบประตูรถ อย่าลืมตรวจสอบยางว่ามีรอยแตก ตุ่มหรือสิ่งแปลกปลอม เช่น ตะปูเสียบเข้าไปหรือไม่ หากพบความผิดปกติ ควรรีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนยางเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

น้ำหม้อน้ำก็เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจในการใช้งานเช่นกัน เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยในช่วงฤดูแล้งที่มีฝุ่นและฤดูฝนที่มีฝนตกบ่อย ทำให้การใช้งานน้ำฉีดกระจกเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบระดับน้ำฉีดกระจกอย่างสม่ำเสมอและเติมให้เพียงพอ อีกทั้งเมื่อเลือกซื้อน้ำฉีดกระจก ควรเลือกน้ำฉีดที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด, หล่อลื่นและต้านการกัดกร่อน โดยเฉพาะในฤดูฝนที่จะช่วยทำความสะอาดกระจกหน้าได้ดี และทำให้ทัศนวิสัยชัดเจน ห้ามใช้น้ำประปาแทนน้ำฉีดกระจก เนื่องจากสิ่งสกปรกในน้ำประปาอาจทำให้หัวฉีดอุดตันและกัดกร่อนยางของใบปัดน้ำฝน ซึ่งอาจทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

อีกหนึ่งวิธีที่ควรทำก่อนขับรถคือการเดินรอบรถตรวจเช็กรถยนต์ทุกครั้ง เพื่อดูว่ามีรอยขีดข่วนหรือรอยบุบใหม่หรือไม่ ซึ่งไม่เพียงแต่เกี่ยวกับความสวยงามเท่านั้น แต่บางครั้งยังช่วยให้คุณพบความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการชนหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ การตรวจสอบไฟรถยนต์ก็สำคัญเช่นกัน ควรเช็คให้มั่นใจว่าไฟทุกดวงทำงานปกติ เช่น ไฟเลี้ยว, ไฟเบรก, ไฟหน้า ทุกดวงคือการสื่อสารเจตนาการขับขี่ของคุณไปยังผู้ขับขี่คนอื่น หากไฟใดเสียหาย อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

สรุปแล้วการบำรุงรักษารถยนต์เป็นการลงทุนระยะยาวที่เจ้าของรถต้องให้ความใส่ใจอย่างต่อเนื่อง การเรียนรู้และนำความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลในเรื่องของการบำรุงรักษาปกติ การป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากระบบเครื่องยนต์ หรือการตรวจสอบด้วยตัวเองในทุกๆ วัน รถยนต์ของคุณจะเต็มไปด้วยพลัง และพร้อมเดินทางร่วมกับคุณไปตลอดเส้นทางที่ยาวนานถึง 12 ปีหรือมากกว่านั้น มาเริ่มดูแลรถยนต์ของเราด้วยวิธีการบำรุงรักษาที่มีวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความยาวนานของรถยนต์กันเถอะ

หวังว่าข้อมูลที่แชร์ในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนหากมีปัญหาในระหว่างการบำรุงรักษาหรือมีเคล็ดลับการบำรุงรักษาที่เป็นเอกลักษณ์ยินดีให้แสดงความคิดเห็นเพื่อแบ่งปันกันเรามาร่วมกันทำให้ถนนในไทยเต็มไปด้วยรถยนต์ที่มีสุขภาพดีและใช้งานได้ยาวนาน

# สารานุกรมยานยนต์

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม
BYD ATTO 2จะเปิดตัวในยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ราคาจะถูกกว่า ATTO 3

BYD ATTO 2จะเปิดตัวในยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ราคาจะถูกกว่า ATTO 3

BYD ATTO 2 มีกำหนดเปิดตัวในยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยจะมีการเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Brussels Motor Show ในเดือนมกราคม อาจมีการนำเข้าสู่ตลาดไทยโดยที่ราคาของ ATTO 2 จะต่ำกว่า ATTO 3 และใกล้เคียงกับ BYD Dolphin ดีไซน์ภายนอกของ ATTO 2 คล้ายกับรุ่นที่จำหน่ายในจีน โดยมีขนาดตัวถังยาว 4310 มม. กว้าง 1830 มม. สูง 1675 มม. และระยะฐานล้อ 2620 มม. ซึ่งเหมาะสมกับสภาพถนนในตลาดไทยและให้ความสะดวกสบายพร้อมความคล่องตัว ด้านการตกแต่งภายใน ATTO 2 ยังคงดีไซน์ที่เรียบง่ายและทันสมัยของ BYD โดยติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนา

วิรุฬห์Dec 31, 2024
กำลังจะซื้อ Volvo EX30? รอสักครู่... รุ่นรถที่อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน Zeekr X คุ้มค่ากว่าที่คุณควรพิจารณา

กำลังจะซื้อ Volvo EX30? รอสักครู่... รุ่นรถที่อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน Zeekr X คุ้มค่ากว่าที่คุณควรพิจารณา

หลายคนอาจไม่รู้ว่า Volvo และ Zeekr เป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือบริษัทแม่เดียวกันคือ Geely ดังนั้นจึงมีบางรุ่นที่มีความคล้ายคลึงกันสูง เช่น Volvo EX30 และ Zeekr X ทั้งสองรุ่นถูกผลิตบนแพลตฟอร์มเดียวกัน แต่ Zeekr X มีราคาที่ถูกกว่า ดีไซน์ที่โดดเด่นกว่า และมีอุปกรณ์ที่ครบครันกว่า คุณจะเปลี่ยนใจจากการซื้อ EX30 หรือไม่? Zeekr X เปิดตัวช้ากว่า EX30 มาก โดยเพิ่งเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมปีนี้

ณัฐวุฒิDec 24, 2024
สองรุ่นรถ MPV หรูแบบไฟฟ้าถูกนำเข้ามา ราคาทั้งหมดถูกกว่า Toyota Alphard

สองรุ่นรถ MPV หรูแบบไฟฟ้าถูกนำเข้ามา ราคาทั้งหมดถูกกว่า Toyota Alphard

【PCauto】ในภูมิประเทศ MPVToyota ยอมรับว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารได้ จึงเปิดตัว Alphard รุ่น PHEV ที่วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 73 กิโลเมตร แต่เมื่อทุกคนมุ่งสู่พลังงานไฟฟ้า ทำไมไม่เลือก MPV ไฟฟ้า 100% ไปเลย ตอนนี้ Xpeng X9 และ Zeekr 009 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% กำลังพยายามแทนที่ Toyota Alphard ในฐานะผู้นำตลาด MPV ระดับหรู และในประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของรถทั้งสองรุ่นนี้ ก็ได้เปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคที่เคยสนใจ Alphard ไปแล้วส่วนหนึ่ง

Kevin WongJan 7, 2025
Toyota ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Hilux Travo”: เตรียมเปิดตัว Hilux เจเนอเรชันใหม่เร็วๆ นี้

Toyota ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Hilux Travo”: เตรียมเปิดตัว Hilux เจเนอเรชันใหม่เร็วๆ นี้

【PCauto】เมื่อเร็วๆ นี้ Toyota ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Hilux Travo” ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศไทย (DIP) ซึ่งหมายความว่า Toyota มีแผนที่จะเปิดตัว Hilux รุ่นใหม่ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยรุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอยนี้คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2025 มีรายงานว่า Toyota มีแผนที่จะปรับเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าของ Hilux Travo และเส้นสายของตัวรถให้มีความทันสมัยและดูทรงพลังมากยิ่งขึ้น

Kevin WongJan 2, 2025
Toyota Alphard เปิดตัว PHEV ในญี่ปุ่นที่สุด ก็ได้ตามกระแสของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว

Toyota Alphard เปิดตัว PHEV ในญี่ปุ่นที่สุด ก็ได้ตามกระแสของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว

แม้ว่า Toyota จะเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ แต่กลับหยุดความก้าวหน้าไว้ที่ HEV มานานเกือบ 30 ปี อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Toyota ได้ประกาศเปลี่ยนแปลง เปิดตัว Alphard-Vellfire รุ่นที่สี่ในแบบ PHEV ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นวันที่ 31 มกราคม 2025

สุรเดชDec 25, 2024
ดูเพิ่มเติม