มิตซูบนเวทีงาน Bangkok International Motor Show 2024 ด้วยรถ Xpander และ Xpander Cross HEV
Kevin WongMar 15, 2024, 06:02 PM
งานแสดงรถยนต์ชั้นที่ 45 ในประเทศไทยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน พ.ศ. 2567 ซึ่งในงานนี้ มิตซูบิชิจะนำเสนอรถ Xpander ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ในประเทศไทย รวมถึงรุ่น Xpander Cross HEV ด้วย ดังนั้น เราสามารถทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรถสองรุ่นนี้ได้ดังนี้
Xpander คือรถ MPV ที่สามารถให้ความสบายและมีการใช้งานหลายๆ แบบ โดยมีการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานหลายๆ สถานการณ์ โดยมีการเปิดตัวครั้งแรกในตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2017 และได้รับความนิยมในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งยังเป็นอันดับสามในอันดับยอดขายของมิตซูบิชิ รถรุ่น Xpander และ Xpander Cross HEV ที่เปิดตัวในประเทศไทยไม่นานมานี้มีจุดเด่นดังนี้
- ลักษณะภายนอก
ทั้ง Xpander และ Xpander Cross HEV มีลักษณะทั่วไปที่เข้ากับรูปลักษณ์ของ MPV หลายใช้งาน แต่การออกแบบด้านหน้ามีลักษณะเส้นโค้งที่มีพลังและมีความมีการทะยาน รถ Xpander Cross HEV มีการเพิ่มแถบหลังคาสำหรับบรรจุสิ่งของและเพิ่มชิ้นส่วนพลาสติกบางส่วนเพื่อเพิ่มความเต็มไปด้วยบรรยากาศขับออกไปชนบท ขนาดรถทั้งหมดเข้ากับมาตรฐานของรถ MPV กลางคือ ยาวกว่ากว้าง 1750 มม. สูง 1750 มม.
2. ส่วนของภายใน
ส่วนในของรถมีความเรียบง่ายมากขึ้น ไม่เหมือนกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่เต็มไปด้วย แต่ก็มีปุ่มกดที่เป็นวัสดุที่มีประโยชน์มากขึ้น ในเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งาน และบรรยากาศภายในมีความหรูหรามากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ แม้ว่าความยาวของตัวรถจะไม่ยาวมาก แต่ระยะระหว่างล้อที่กว้างถึง 2775 มม. ทำให้พื้นที่ในตัวรถไม่คดเคี้ยวคุยมากเกินไป
3. ด้านการติดตั้ง
การติดตั้งในรถคันนี้ถือว่าค่อนข้างครบถ้วน โดยเน้นไปที่ความปลอดภัยโดยส่วนใหญ่ เช่น ระบบการแจกจ่ายกำลังเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบช่วยเบรก (BA) และตัวควบคุมการเลี้ยวแบบแอคทีฟ (AYC) ฯลฯ การติดตั้งสิ่งที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสมาร์ทมีน้อยมาก แต่ยังมีการติดตั้งฟังก์ชั่นออโต้แอปเปิ้ล (Apple CarPlay) และแอนดรอยด์ออโต้ (Android Auto) อยู่
4. ด้านการขับเคลื่อน
ระบบเครื่องผสมพลังงาน HEV ในรถคันนี้ที่มาจากระบบ PHEV ของ มิตซูบิชิ สามารถรับมือกับการขับขี่ประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำความสุขในการขับขี่มาได้อย่างเหมาะสมด้วย รถใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ที่ใช้ระบบอะท์กินซ์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการเผาเชื้อเพิ่มขึ้น พลังงานสูงสุดที่ 95 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 134 นิวตันเมตร ในขณะเดียวกัน มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงสุดที่ 116 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 255 นิวตันเมตร ด้วยการรวมพลังงานทั้งสองนี้ รถสามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 9.7 วินาที แม้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับความสนุกสนานและประสิทธิภาพของการขับขี่ แต่ก็เพียงพอสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่เป้าหมายของรถคันนี้ รวมทั้งรถยังมีการติดตั้งโหมดขับขี่ทั้งหมด 7 โหมด ได้แก่ EV PRIORITY, CHARGE, NORMAL, TARMAC, GRAVEL, MUD, WET ซึ่งช่วยทำให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ได้อย่างยืดหยุ่นและสะดวกสบายในการปรับปรุงการเคลื่อนไหวของรถ ซึ่งสามารถทำให้การเคลื่อนที่ของรถดีขึ้นตามเพื่อเสริมความเศร้าใจและการปรับที่สะดวกสบายสำหรับสภาพถนนที่เจออยู่
เรื่องระบบระงับสตรัท ถือเป็นระบบที่นำมาจากรถรุ่นเดียวกันมากมาย โดยใช้แมคเฟอร์สันด้านหน้าและตัวตีกลับด้านหลัง เป็นไปได้ว่ามีไว้สำหรับการทำงานในเส้นทางออฟโรด แต่เนื่องจากลักษณะของรถยนต์ไฮบริด (HEV) จะไม่มีเสียงเครื่องยนต์เมื่อขับรถด้วยความเร็วต่ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ในระหว่างนี้ ระยะห่างจากพื้นก็สูงถึง 205 มม. ซึ่งสามารถควบคุมการเดินทางออกไปได้ในระดับหนึ่ง
เกี่ยวกับรถยนต์รุ่นนี้และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานแสดงรถยนต์ในประเทศไทย กรุณาติดตามอย่างต่อเนื่อง!
Follow: BIMS 45th
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
GEELY EX5 ออกสู่ตลาด ราคาเริ่มต้นที่ 859,000 บาท เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า BYD Atto 3
ถึงแม้ว่าในปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะซบเซาลง แต่หากไม่นับรวม BYD Dolphin อันดับยอดขายของ BYD Atto 3 ก็ไม่ตกลงเลย อีกทั้งในปี 2023 BYD Atto 3 เคยครองตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งติดต่อกันถึง 8 เดือน โดยมียอดขายรวมในช่วง 9 เดือนแรกแตะ 15,924 คัน สถานการณ์เช่นนี้จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงสายตาของบริษัทรถยนต์จีนอื่น ๆ อย่าง GAC Aion Y Plus และ NETA X
BYD ATTO 2จะเปิดตัวในยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ราคาจะถูกกว่า ATTO 3
BYD ATTO 2 มีกำหนดเปิดตัวในยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยจะมีการเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Brussels Motor Show ในเดือนมกราคม อาจมีการนำเข้าสู่ตลาดไทยโดยที่ราคาของ ATTO 2 จะต่ำกว่า ATTO 3 และใกล้เคียงกับ BYD Dolphin ดีไซน์ภายนอกของ ATTO 2 คล้ายกับรุ่นที่จำหน่ายในจีน โดยมีขนาดตัวถังยาว 4310 มม. กว้าง 1830 มม. สูง 1675 มม. และระยะฐานล้อ 2620 มม. ซึ่งเหมาะสมกับสภาพถนนในตลาดไทยและให้ความสะดวกสบายพร้อมความคล่องตัว ด้านการตกแต่งภายใน ATTO 2 ยังคงดีไซน์ที่เรียบง่ายและทันสมัยของ BYD โดยติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนา
BYD อย่างเป็นทางการลดราคาต่อเนื่อง,ควรเลือกSealion 7 หรือ Xpeng G6?
วันนี้ซื้อ BYD พรุ่งนี้ลดราคา นี่คือเหตุผลหลักที่หลายคนไม่กล้าซื้อรถ BYD ทำให้บางคนเปลี่ยนใจไปสนใจ Xpeng G6 แทน G6 ต่างจาก BYD Sealion 7 เพราะมาจากแบรนด์ใหม่อย่าง Xpeng จึงมีดีไซน์ที่แหวกแนวจากรถยนต์แบบดั้งเดิม ด้านหน้ามีไฟกลางวันเส้นบาง ดูล้ำยุคมาก ขับ G6 ไปกับเพื่อน เชื่อว่าจะสร้างบทสนทนาได้มากขึ้น
อนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota กำลังเป็นปริศนา ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีไฮบริดในรอบ 30 ปีจะกลายเป็นเพียงเงา
ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดรถยนต์ที่ยากลำบาก Noriaki Yamashita ผู้บริหารโตโยต้า ประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า แต่ความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าดูเหมือนจะไม่แข็งแกร่งเท่าที่นายโนริอากิ ยามาชิตะแสดงออกไว้ ขณะนี้ โตโยต้ามีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) เพียงรุ่นเดียวคือ bZ4X ซึ่งยังคงอยู่ในสถานะขาดตลาด ส่วนรุ่น HEV นั้นยังคงใช้เทคโนโลยี THS โดยไม่มีสัญญาณของการพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้าที่มากขึ้น
ภาพประกอบการยื่นขอจดทะเบียน BYD Sealion 07 DM-i ถูกเปิดเผย: มาพร้อมเทคโนโลยี DM รุ่นที่ 5
เมื่อเร็วๆ นี้ จากประกาศรายชื่อผู้ผลิตและผลิตภัณฑ์รถยนต์ทางถนนฉบับที่ 390 ของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศจีน เราได้ค้นพบข้อมูลเกี่ยวกับ BYD Sealion 07 DM-i โดยรถรุ่นใหม่นี้นอกจากจะติดตั้งเทคโนโลยี DM รุ่นที่ 5 แล้ว ยังมาพร้อมกับระบบ LiDAR ที่อาจรองรับการขับขี่อัตโนมัติในเมือง (NOA) อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งโดรนรุ่นใหม่ล่าสุดของ BYD ในรถยนต์คันนี้ BYD Sealion 07 DM-i ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Ocean Aesthetics” โดยมีลักษณะเรียบง่ายแต่ดูเฉียบคม
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน