SUV สายลุยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ Ford Everest มีดีอย่างไร?
ธนวัฒน์Sep 09, 2024, 08:06 PM
ในตลาดรถยนต์ของไทย SUV สไตล์ออฟโรดที่มาพร้อมกับภายในที่หรูหราและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมกำลังกลายเป็นจุดสนใจของผู้บริโภคอย่างเงียบๆ และนั่นคือ Ford Everest สำหรับหลายพื้นที่ที่มีสภาพถนนไม่ดี โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยทางขึ้นลงภูเขา Ford Everest สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างดีเยี่ยมในฐานะรถออฟโรดที่แข็งแกร่ง สมรรถนะอันโดดเด่นและระยะห่างจากพื้นถนนที่ค่อนข้างสูงทำให้รถรุ่นนี้มีความสามารถในการปรับตัวได้ดี จนได้รับการยอมรับและคำชื่นชมอย่างกว้างขวางในตลาดไทย
ปัจจุบัน Ford Everest ในประเทศไทยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,377,000 ถึง 2,279,000 บาท โดยมีหลายรุ่นให้ผู้บริโภคเลือก ความแตกต่างของราคาเกิดจากสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่เป็นจุดเด่นหลัก สำหรับผู้บริโภคแล้ว Ford Everest ถือเป็น SUV สไตล์ออฟโรดที่มีราคาสูงพอสมควร รถที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะนี้แตกต่างจากรถครอบครัวทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ความแข็งแกร่งที่โดดเด่นทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นที่ต้องการและน่าจดจำในหมู่ผู้ชายหลายคน
สำหรับดีไซน์ภายนอกของ Ford Everest รุ่นใหม่ ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ SUV สไตล์ออฟโรดอย่างชัดเจน ตัวรถถูกออกแบบให้ดูทรงพลังและเหลี่ยมสัน แสดงออกถึงอารมณ์การผจญภัยและความแข็งแกร่ง ด้านหน้ารถมาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ที่ช่วยเพิ่มมิติและความรู้สึกแข็งแรงให้กับรถทั้งคัน ทำให้หน้ารถดูหนาและน่าเกรงขามยิ่งขึ้น กันชนหน้าและแผ่นป้องกันใต้กันชนหน้าได้รับการออกแบบใหม่ เข้ากันได้ดีกับรูปลักษณ์ด้านหน้า เพิ่มความรู้สึกทรงพลังและดุดันให้กับรถ
ภายในห้องโดยสารของ Ford Everest รุ่นใหม่ถือเป็นที่น่าประทับใจมาก รถรุ่นใหม่นี้ใช้โทนสีและวัสดุภายในที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ สร้างบรรยากาศที่หรูหราและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ที่คอนโซลกลาง หน้าจอขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตามากที่สุด มอบประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความทันสมัย รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหน้าปัดดิจิตอลขนาดใหญ่แบบเต็มจอ และชุดเกียร์ที่ออกแบบใหม่ซึ่งเพิ่มความรู้สึกถึงเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ ในส่วนของเบาะนั่ง รถรุ่นใหม่นี้ใช้เบาะหนังที่มีการปั๊มนูนลวดลายที่ไม่เพียงแค่เพิ่มความสบายในการนั่ง แต่ยังแสดงออกถึงความพิเศษและเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้อย่างชัดเจน
ในด้านสมรรถนะ Ford Everest รุ่นใหม่มาพร้อมกับเครื่องยนต์หลายแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยเครื่องยนต์ 2.0T ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (Ps) และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ 3.0T มีกำลังสูงสุด 250 แรงม้า (Ps) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ซึ่งแม้ในขณะที่บรรทุกเต็มคันก็สามารถขับขึ้นทางลาดชันได้อย่างง่ายดาย โดยไม่พบปัญหากำลังเครื่องยนต์ไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ รถรุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และในบางรุ่นได้รับการอัปเกรดเป็นเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ Ford Everest รุ่นใหม่นี้ยังมีฟังก์ชันระบบขับเคลื่อนสี่ล้อต่ำและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วสูง พร้อมทั้งโหมดการขับขี่หลายรูปแบบ ที่สามารถปรับให้เหมาะสมได้ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการขับขี่บนเส้นทางที่ซับซ้อน
สรุป: SUV ที่ครบเครื่องและคุ้มค่าน่าจับตามอง
Ford Everest รุ่นใหม่ในฐานะ SUV สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มาพร้อมกับดีไซน์ที่แข็งแกร่ง ภายในที่หรูหราและสะดวกสบาย รวมถึงสมรรถนะที่ทรงพลัง ทำให้มีศักยภาพในการแข่งขันสูงในตลาดไทย นอกจากจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมรรถนะออฟโรดแล้ว ยังสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย อย่างไรก็ตาม ราคาของ Ford Everest นั้นค่อนข้างสูงและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่ารถยนต์ครอบครัวทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณและฐานะทางการเงินที่มั่นคง
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
GEELY EX5 ออกสู่ตลาด ราคาเริ่มต้นที่ 859,000 บาท เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า BYD Atto 3
ถึงแม้ว่าในปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะซบเซาลง แต่หากไม่นับรวม BYD Dolphin อันดับยอดขายของ BYD Atto 3 ก็ไม่ตกลงเลย อีกทั้งในปี 2023 BYD Atto 3 เคยครองตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งติดต่อกันถึง 8 เดือน โดยมียอดขายรวมในช่วง 9 เดือนแรกแตะ 15,924 คัน สถานการณ์เช่นนี้จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงสายตาของบริษัทรถยนต์จีนอื่น ๆ อย่าง GAC Aion Y Plus และ NETA X
BYD ATTO 2จะเปิดตัวในยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ราคาจะถูกกว่า ATTO 3
BYD ATTO 2 มีกำหนดเปิดตัวในยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยจะมีการเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Brussels Motor Show ในเดือนมกราคม อาจมีการนำเข้าสู่ตลาดไทยโดยที่ราคาของ ATTO 2 จะต่ำกว่า ATTO 3 และใกล้เคียงกับ BYD Dolphin ดีไซน์ภายนอกของ ATTO 2 คล้ายกับรุ่นที่จำหน่ายในจีน โดยมีขนาดตัวถังยาว 4310 มม. กว้าง 1830 มม. สูง 1675 มม. และระยะฐานล้อ 2620 มม. ซึ่งเหมาะสมกับสภาพถนนในตลาดไทยและให้ความสะดวกสบายพร้อมความคล่องตัว ด้านการตกแต่งภายใน ATTO 2 ยังคงดีไซน์ที่เรียบง่ายและทันสมัยของ BYD โดยติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนา
BYD อย่างเป็นทางการลดราคาต่อเนื่อง,ควรเลือกSealion 7 หรือ Xpeng G6?
วันนี้ซื้อ BYD พรุ่งนี้ลดราคา นี่คือเหตุผลหลักที่หลายคนไม่กล้าซื้อรถ BYD ทำให้บางคนเปลี่ยนใจไปสนใจ Xpeng G6 แทน G6 ต่างจาก BYD Sealion 7 เพราะมาจากแบรนด์ใหม่อย่าง Xpeng จึงมีดีไซน์ที่แหวกแนวจากรถยนต์แบบดั้งเดิม ด้านหน้ามีไฟกลางวันเส้นบาง ดูล้ำยุคมาก ขับ G6 ไปกับเพื่อน เชื่อว่าจะสร้างบทสนทนาได้มากขึ้น
อนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota กำลังเป็นปริศนา ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีไฮบริดในรอบ 30 ปีจะกลายเป็นเพียงเงา
ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดรถยนต์ที่ยากลำบาก Noriaki Yamashita ผู้บริหารโตโยต้า ประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า แต่ความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าดูเหมือนจะไม่แข็งแกร่งเท่าที่นายโนริอากิ ยามาชิตะแสดงออกไว้ ขณะนี้ โตโยต้ามีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) เพียงรุ่นเดียวคือ bZ4X ซึ่งยังคงอยู่ในสถานะขาดตลาด ส่วนรุ่น HEV นั้นยังคงใช้เทคโนโลยี THS โดยไม่มีสัญญาณของการพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้าที่มากขึ้น
"BYD SEALION 7 ไทยแลนด์ Motor Expo 2024 โดดเด่น: คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา, มีการตั้งค่าที่หลากหลาย!"
นิทรรศการรถยนต์ Motor Expo 2024 ในประเทศไทยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายนถึง 10 ธันวาคม 2567 มีแบรนด์รถยนต์มากมายเข้าร่วมในงานครั้งนี้ โดยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่ทำให้คนรู้จักกันอย่างเช่น BYD ได้รับความสนใจอย่างมาก BYD จะร่วมมือกับ DENZA ในบูธ A06 ในงานดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอ BYD SEALION 7 อีกครั้ง ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงรุ่นรถยนต์นี้BYD SEALION 7 มีสองรุ่นให้เลือกในประเทศไทย ในราคาระหว่าง THB 1,149,900 ถึง 1,249,900 คู่แข่งหลักที่ BYD SEALION 7 ต้องเผชิญคือ Tesla Model Y และ Xpeng G6
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน